อาร์คิมีดีส จัดว่าเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ วิศวกร รวมถึงการเป็นนักประดิษฐ์คนสำคัญของโลกอีกด้วย เอาแค่ทฤษฏีการหาน้ำหนักของสิ่งของด้วยการแทนที่ของน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นทฤษฏีที่สำคัญมาจนถึงทุกวันนี้แล้ว อาร์คิมีดีส ยังประดิษฐ์เครื่องมือผ่อนแรงมากมายที่กลายเป็นพื้นฐานการก่อสร้างให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นมีอะไรบ้าง
รอกขนส่ง
อีกหนึ่งนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยให้การก่อสร้างขนาดใหญ่เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วก็คือ รอก ใช่เครื่องชักรอกที่เราเห็นกันตามโรงงานที่จะใช้สำหรับยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากขึ้นด้วยการร้อยเชือกผ่านรอก ให้มันช่วยผ่อนแรงจนสามารถยกของได้ เชื่อไหมว่ารอกที่เห็นง่ายๆอย่างนี้เป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกในยุคนั้นเลย โดยเฉพาะท่าเรือที่ต้องอาศัยการยกสิ่งของน้ำหนักหลายตัน พอมีรอกเข้าไปการทำงานก็ง่ายขึ้นเยอะเลย (อาร์คีมีดิส ชอบไปนั่งอยู่ที่ท่าเรือ แล้วจึงคิดรอกขึ้นมาได้)
ระหัดเกลียว
อย่างที่บอกไป อาร์คิมีดีส ค่อนข้างผูกพันกับเรือ ท่าเรือมาก ทำให้เค้าสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับท่าเรือ ระหัดเกลียวนี้ก็เช่นกัน ท่อทรงกระบอกที่มีแกนรูปเกลียวเหมือนกับใบพัดเป็นแกนกลางปลายด้านหนึ่งจะมีมือจับสำหรับหมุน อีกด้านหนึ่งเป็นปลายสำหรับเปิดปิดท่อ ตอนแรกนวัตกรรมตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกเรือสามารถวิดน้ำได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่พบเห็นเรือมีน้ำรั่วซึม แต่ภายหลังมีการนำนวัตกรรมตัวนี้ไปช่วยในการขนถ่ายถ่านหิน เมล็ดพืช ได้เร็วขึ้น
กรงเล็บอาร์คิมีดีส
ไม่เพียงแต่นวัตกรรมเพื่อผ่อนแรงเท่านั้น อาร์คิมีดีส ยังคิดค้นอาวุธเพื่อป้องกันการโจมตีจากทางทะเลด้วย อาวุธชิ้นแรกชื่อว่า กรงเล็บอาร์คิมีดีส วิธีการทำงานก็คือ จะมีท่อนเหล็กขนาดใหญ่พาดผ่านกำแพง เป็นท่อนๆลักษณะคล้ายกับแขน ด้านหนึ่งจะเป็นเบ็ดหย่อนลงไปในทะเล อีกด้านหนึ่งเป็นท่อนเชื่อมต่อกับฝั่งอีกด้าน เพื่อเรือรบของศัตรูมาติดกับเบ็ด ฝั่งหลังกำแพงจะช่วยกันดึงแขนขึ้นเพื่อให้เบ็ดนั้นเกี่ยวเรือให้ลอยขึ้นฟ้า จากนั้นก็ปล่อยลงอย่างรวดเร็ว เรือเมื่อกระแทกน้ำอย่างรุนแรงก็จะแตกหักไปแบบไม่ต้องต่อสู้อะไรเลย เป็นกลไกที่คล้ายกับเราตกปลานั่นเอง
ลำแสงพิฆาต
อีกหนึ่งอาวุธที่อาจจะไม่รุนแรงแต่ก็ทำให้กองเรือศัตรหวั่นเกรงได้ก็คือ ลำแสงพิฆาต วิธีการก็คือจะสร้างโลหะคล้ายกระจกเงาเป็นเลนส์เว้าขนาดใหญ่ จากนั้นก็นำลำแสงนั้นส่องไปยังเรือที่พุ่งเข้ามา ลำแสงจากดวงอาทิตย์ที่ผ่านการรวมแสงมาแล้วจะเป็นลำแสงพิฆาตให้เรือปลายทางขับได้ไม่สะดวกนัก หรือหากไม้ไม่ดีอาจจะทำให้เรือไหม้ได้บางส่วน ถือว่าเป็นอาวุธป้องกันชายฝั่งที่อันตรายมากในสมัยนั้น